ทฤษฎีพหุปัญญาของ ดร.โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์
ทฤษฎีพหุปัญญาของ ดร.โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์
หากพูดถึงคำว่า “อัจฉริยภาพ” หรือ “ความฉลาด” สิ่งที่หลายๆคนนึกถึงเป็นอันดับแรกก็คือ แบบทดสอบวัด IQ ที่สามารถบ่งบอกคะแนนของสติปัญญาของผู้ทดสอบ และโดยปกติคำว่าอัจฉริยภาพบ่อยครั้งจะถูกตีความไปในเรื่องศักยภาพของสมองในมุมของการใช้ปัญญาเท่านั้น หลายคนมองว่าเป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิดและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
อย่างไรก็ตามไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมานี้เองที่ “อัจฉริยภาพ” ถูกตีความในมุมมองที่ต่างออกไป หนึ่งในทฤษฎีที่มีชื่อเสียงก็คือ ทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences) ของ ดร.ฮาเวิร์ด การ์ดเนอร์
ทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences) ทำลายข้อจำกัดของการตีความในเรื่องอัจฉริยภาพในมุมมองของนักจิตวิทยาที่มีอยู่ก่อนหน้า ดร.การ์ดเนอร์ ได้ตีพิมพ์หนังสือที่มีชื่อว่า "Frames of Mind: The Theory of Multiple Intelligences” ที่กล่าวถึงความหลากหลายของ “อัจฉริยภาพ” ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 8 รูปแบบ และถูกเพิ่มมาอีก 1 รูปแบบคือ ปัญญาด้านอัตถิภาวนิยม ("Existentialist Intelligence”)
ดร.การ์ดเนอร์กล่าวว่า อัจฉริยภาพไม่ได้มีเฉพาะในเรื่องของสติปัญญาเท่านั้นแต่ยังมีอีกหลายประเภทเช่น ดนตรี การเข้าใจตนเอง มิติสัมพันธ์ และ ภาษา เป็นต้น
ทุกๆคนล้วนแล้วแต่มีความเป็นอัจฉริยภาพในรูปแบบของตน เช่น ผู้ที่มีอัจฉริยภาพด้านดนตรี ก็จะมีความถนัดเฉพาะตัวเรื่องดนตรีที่เหนือกว่าผู้ที่มีอัจฉริยภาพด้านภาษา, ธรรมชาติวิทยา หรือมิติสัมพันธ์
ทฤษฎีของ ดร.การ์ดเนอร์ ถูกวิจารย์โดยนักจิตวิทยาและนักการศึกษาว่าเป็นการตีความที่กว้างเกินไป และอธิบายความสามารถและลักษณะเฉพาะตนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้ทฤษฎียังถูกวิจารณ์ว่าไม่มีงานวิจัยรองรับที่เพียงพอ
อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีได้ถูกนำไปใช้ในแวดวงการศึกษาอย่างกว้างขวาง นักการศึกษาหลายท่านได้นำไปต่อยอดและผนวกกับทฤษฎีการสอนและนำไปใช้จริงในห้องเรียน
หากเราได้ศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับทฤษฎีพหุปัญญา จะช่วยให้สามารถเข้าใจจุดแข็งของตัวเอง อ่านบทความนี้ต่อไป ท่านจะเข้าใจคุณลักษณะของอัจฉริยภาพด้านต่างๆ แต่ถ้าหากอ่านจบแล้วยังไม่แน่ใจ สามารถทำแบบทดสอบเพื่อค้นหา “อัจฉริยภาพ” ของคุณได้
1.ปัญญาด้านมิติสัมพันธ์
จุดแข็ง: การตัดสินใจและการมองภาพเชิงพื้นที่
ผู้ที่มีจุดแข็งด้านนี้จะมีความสามารถในการจินตนาการรูปทรง นอกจากนี้ยังแม่นยำในเรื่องของทิศทาง เช่นอ่านแผนที่ อ่านชาร์ต ดูภาพเคลื่อนไหวและรูปภาพ
ลักษณะของผู้ที่มีปัญญาด้านมิติสัมพันธ์ ประกอบด้วย
ชอบอ่านและเขียน
ถนัดต่อจิ๊กซอร์ เลโก้
ตีความภาพ กราฟ แผนภูมิได้ดี
ชอบงานศิลปะและการวาดภาพระบายสี
จดจำรูปแบบและรูปร่างได้อย่างง่ายดาย
อาชีพที่สอดคล้องกับศักยภาพ
สถาปนิก
ศิลปิน
วิศวกร
2. ปัญญาด้านภาษา
จุดแข็ง: การใช้คำ การเรียนรู้ภาษา การเขียน
ผู้ที่มีความสามารถด้านนี้จะสามารถใช้คำได้ดีทั้งการพูดและการเขียน ความสามารถที่โดดเด่นคือ การเขียนบรรยายเรื่องราว การจดจำข้อมูล และการอ่าน
ลักษณะของผู้ที่มีปัญญาด้านภาษา ประกอบด้วย
สามารถจดจำข้อมูลจากการฟังและการอ่านได้ดี
สามารถอธิบายขยายความได้เก่ง
มีความสามารถในการสอดแทรกอารมณ์ขันเมื่อเล่าเรื่องราวต่างๆ
อาชีพที่สอดคล้องกับศักยภาพ
นักเขียน นักประพันธ์ นักข่าว
ทนายความ
อาจารย์
3. ปัญญาด้านตรรกะและคณิตศาสตร์
จุดแข็ง: การวิเคราะห์ปัญหา คณิตศาสตร์
ผู้ที่มีความสามารถด้านนี้จะถนัดการให้เหตุผล จดจำรูปแบบ การวิเคราะห์ปัญหาเชิงตรรกะ มีความโดดเด่นในเรื่องตัวเลข ความสัมพันธ์ และรูปแบบ
ลักษณะของผู้ที่มีปัญญาด้านตรรกะและคณิตศาสตร์ ประกอบด้วย
มีความชำนาญในการแก้ปัญหา
ชอบที่จะคิดเชิงนามธรรม
ชอบทำการทดลองวิทยาศาสตร์
ชอบแก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน
อาชีพที่สอดคล้องกับศักยภาพ
นักวิทยาศาสตร์
นักคณิตศาสตร์
โปรแกรมเมอร์
วิศวกร
นักบัญชี
4. ปัญญาด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว
จุดแข็ง: การเคลื่อนไหวร่างกาย การควบคุมกล้ามเนื้อ
ผู้ที่มีความสามารถนี้ สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ดี ควบคุมและสั่งงานกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังสามารถประสานงานระหว่างมือและสายตาได้อย่างดีเยี่ยม มีความคล่องแคล่วและกระฉับกระเฉง
ลักษณะของผู้ที่มีปัญญาด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว ประกอบด้วย
เล่นกีฬาและเต้นเก่ง
ชอบสร้างสิ่งของหรือผลงานโดยการใช้มือ
ควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายได้ดีเยี่ยม
จดจำและเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติ
อาชีพที่สอดคล้องกับศักยภาพ
นักเต้น
นักแสดง
นักกีฬา
จิตรกร
นักประดิษฐ์
5. ปัญญาด้านดนตรี
จุดแข็ง: จังหวะและดนตรี
ผู้ที่มีความสามารถด้านนี้จะถนัดการจับจังหวะ รูปแบบของเสียง มีความสุนทรีย์ด้านดนตรีสูง สามารถประพันธ์ดนตรี รวมถึงแสดงดนตรีได้ดีเยี่ยม
ลักษณะของผู้ที่มีปัญญาด้านดนตรี ประกอบด้วย
ชอบร้องเพลงและเล่นดนตรี
จับจังหวะ โทน และรูปแบบดนตรีได้เก่ง
จดจำบทเพลงและทำนองเพลงได้รวดเร็ว
สามารถเรียนรู้และพัฒนาทฤษฎีทางดนตรีได้ไว
อาชีพที่สอดคล้องกับศักยภาพ
นักดนตรี
นักประพันธ์
นักร้อง
ครูสอนดนตรี
6. ปัญญาด้านมนุษย์สัมพันธ์
จุดแข็ง: เข้าใจผู้อื่น ความสัมพันธ์
ผู้ที่มีความสามารถด้านนี้จะมีความเข้าใจผู้อื่น และสร้างความสัมพันธ์ได้ดี นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการประเมินอารมณ์ความรู้สึก การตัดสินใจ และจุดประสงค์ของผู้คนรอบตัว
ลักษณะของผู้ที่มีปัญญาด้านมนุษย์สัมพันธ์ ประกอบด้วย
สื่อสารกับผู้อื่นได้ดี
สื่อสารภาษากายได้ดี
มองเหตุการณ์ในมุมที่แตกต่างจากผู้อื่น
สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น
สามารถคลี่คลายความขัดแย้งได้ดี
อาชีพที่สอดคล้องกับศักยภาพ
นักจิตวิทยา
นักปรัชญา
ที่ปรึกษา
นักขาย
นักการเมือง
7. ปัญญาด้านความเข้าใจตนเอง
จุดแข็ง: เข้าใจตนเอง พิจารณาตนเอง
ผู้ที่มีความสามารถด้านนี้จะสามารถควบคุมสภาวะอารมณ์ ความรู้สึก และแรงจูงใจ ของตนเอง นอกจากนี้ยังสามารถพิจารณาตนเอง ฝันกลางวันอยู่กับตัวเอง หนีออกจากความสัมพันธ์กับผู้อื่น และประเมินจุดแข็งจุดอ่อนของตนเองได้
ลักษณะของผู้ที่มีปัญญาด้านความเข้าใจตนเองประกอบด้วย
วิเคราะห์จุดแข้งและจุดอ่อนของตเองได้ดี
ชอบวิเคราะห์ทฤษฎีและแนวคิดต่างๆ
ระวังตนเองได้ดีเยี่ยม
เข้าใจแรงจูงใจและความรุ้สึกของตัวเองได้อย่างชัดเจน
อาชีพที่สอดคล้องกับศักยภาพ
นักปรัชญา
นักเขียน
นักทฤษฎี
นักวิทยาศาสตร์
8. ปัญญาด้านธรรมชาติวิทยา
จุดแข็ง: ค้นหารูปแบบและความสัมพันธ์ของธรรมชาติ
ผู้ที่มีความสามารถด้านนี้จะสนใจธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชอบเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ชนิดต่างๆ มีความอ่อนไหวในเรื่องธรรมชาติ รวมไปถึงการทำลายสิ่งแวดล้อม
ลักษณะของผู้ที่มีปัญญาด้านความเข้าใจตนเองประกอบด้วย
สนใจศึกษาวรรณศาสตร์ ชีววิทยา และสิ่งมีชีวิตต่างๆ
เก่งในด้านจำแนกและเรียบเรียงข้อมูล
ชอบตั้งแคมป์ ทำสวน ปีนเขา และพจญภัย
อาชีพที่สอดคล้องกับศักยภาพ
นักชีววิทยา
นักอนุรักษ์
ชาวสวนชาวไร่
บทความที่เกี่ยวข้อง
7 อุปนิสัย พัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง
นิสัยที่ดีทั้ง 7 ประการ จากหนังสือ “7 Habits for Highly Effe..
อ่านเพิ่มเติม ⟶16 วิธีพัฒนา EF ช่วยให้ลูกเก่ง ฉลาด เสริมสร้างทักษ..
16 วิธีที่จะทำให้น้องๆ พัฒนา Executive Function (EF) ห..
อ่านเพิ่มเติม ⟶EFคืออะไร!!ทำไมนี้นักวิชาการระดับโลกชี้ว่า สำคัญกว..
ทักษะ EF คือ กระบวนการทางความคิดในสมองส่วนหน้า ที่เกี่..
อ่านเพิ่มเติม ⟶